วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พุทธวจนสถาบัน ณ.บ้านกุดโง้ง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สร้างเป็นศูนย์เผยแผ่ฝึกภิกษุภาคอีสาน





เราขุดสระน้ำไว้ใช้แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้เพราะขุ่นมากผมจึงซื้อถังบรรจุน้ำpvc 2500 ลิตร 4 ถังและโอ่ง ขนาด 800 ลิตร 6 ใบ ไว้สำรองน้ำใช้ ขณะนี้มีพระอยู่ 7 รูป นับว่าเพียงพอแล้วสำหรับน้ำเฉพาะหน้า เราเริ่มทุกอย่างจากความไม่มีอะไรเลย ลำบากมาก

ทำเลที่ตั้งวัดหลังพิงเขา



ถมดินปรับระดับเสร็จแล้ว


ผมและพระสุจินต์ประชุมกับผู้รับเหมาช่างเดช คุ้มไพบูลย์ จะเร่งให้เสร็จใน 30 วัน





วิ่งตามป้ายนี้จนสุดแล้วเลยไปอีกหน่อยจะพบวัดเอง




ทางเข้าวัดมาจากถนนมิตรภาพ ประมาณ 20 ก.ม เลี้ยวขวาวิ่งตามป้ายบอกทางค่ายลูกเสือไชยวุธวัฒนา

ทางเข้าวัดฝนตกจะออกมาไม่ได้

พระสุจินต์และคณะหน้าศาลาปัจจุบันดุเอาเองครับ


กุฎิพระสุจินต์ กำลังสร้าง


ศาลาปัจจุบัน เป็นทุกอย่างที่นี่พระก็จำวัดที่นี่

ภาพสถานที่จะสร้างศาลา ในภาพ ผมเอง พระสุจินหัวหน้าคณะสงฆ์ คุณแก้ว

ความเป็นมาก่อนที่จะรับปากลงมือสร้าง พุทธวจนสถาบัน

ผมอาจารย์จารุช  ได้ติดตามการสอนธรรมะของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล แห่งวัดนาป่าพง 27 ม.7 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา คลอง 10 ปทุมธานี มานานพอสมควรถือว่าไปวัดไม่บ่อยแต่ฟังซีดีท่านทุกวันและนำไปปฎิบัติ ผมเองปฎิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อจรัล แห่งวัดอัมพวัน มาตลอดและได้สร้างวัดถวายท่านที่ขอนแก่นคือวัดสวนเวฬุวัน จากนั้ก็ได้ร่วมสร้าง อีกหลายแห่งเช่น เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ไม่ทราบบุญหรือกรรมสร้างแต่วัด จนตั้งใจจะไม่สร้างอีกแล้วในชีวิต การมาทำบุญฟังธรรมวัดนาป่าพง ก็สุขใจมากในบรรยากาศสถานที่ ตั้งใจส่วนลึกแล้วนั้นและได้นัดกับคุณแก้วไว้ว่า มาวัดนี้จะไม่บอกชื่อใครจะเก็บตัวจะมุ่งการศึกษาแบบเงียบๆ แต่ก็จนได้เมื่อได้พูดคุยกับคุณแม่พระอาจารย์ ท่านชื่อคุณแม่นฤมล ครับซึ่งท่านก็ทำอาหารมาถวายพระทุกวันแบบเรียบๆง่ายๆ คุยกันบ่อยๆแต่ไม่ได้ถามชื่อเสียงกันรู้จักแต่หน้า จนวันหนึ่งท่านบอกว่าจะขายที่ดินที่คลอง 14 ลำลูกกา เพื่อนำเงินไปซื้อที่เพิ่มเพื่อสร้างสาขาวัดที่ ปากช่องเพราะวัดนี้คับแคบลงทุกทีที่พักไม่พอ ประกอบกับพระสุจินต์ มีแนวความคิดที่จะเผยแผ่พุทธวจนไปยังพระภิกษุ เพื่อภิกษุจะได้ไปปฎิบัติและบอกสอนชาวบ้านอีกที่หนึ่ง คุยไปคุยมาหลายวัน วันหนึ่งท่านก็แนะนำให้คุณแก้วสร้างศาลาชั่วคราวเล็กๆ สักแสนกว่าบาท ให้พระได้ใช้สถานที่ศาสนกิจในพรรษานี้ เราเพียงคิดกันที่จะสร้างศาลามุงจาก เสาไม้ยูคา พื้นเทปูนขัดมันพอใช้ไปก่อน ธรรมดาๆง่ายๆ ขนาด8 คูณ 8 เมตร เท่านั้น ค่าก่อสร้างประมาณ 1 แสน กว่าๆ ผมเห็นว่าพอที่จะมีทรัพย์เองอยู่บ้าง ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
แต่เมื่อวันไปดูสถานที่ที่จะลงมือก่อสร้างเกิดลมแรงเหมือนพายุมาบอกเหตุ พัดแรงมากจนทำให้พระสุจินต์ หัวคณะสงฆ์ ที่วังไทร ออกปากว่าถ้าลมแรงแบบนี้อาตมาคงอยู่ไม่ได้ ผมก็เลยตัดสินใจสร้างแบบมั่นคงใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแบบฐานแผ่ทั้งหมด โครงหลังคาเป็นเหล็ก มุงกระเบื้องลอนคู่อย่างหนา และขยายขนาดอาคารกว้าง 10 เมตรคูณ ยาว 12 เมตร พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร ค่าก่อสร้างจึงเพิ่มขึ้นมากครับ
เพราะพระสุจินต์ท่านนำพาคณะสงฆ์ออกธุดงค์ ทุกปี ในนาม "ศูนย์พระธุดงค์ ธรรมจาริกแห่งประเทศไทย" มีภิกษุในเครือข่าย 700 กว่ารูปที่ร่วมงานกันจัดออกธุดงค์และจะเข้ามาอบรมและใช้ศาลาเป็นที่ลงสวดพระปาฏิโมกข์ ประกอบกิจสงฆ์เช่นอุโบสถ เพราะพระธุดงค์ท่านใช้ศาลาแทนอุโบสถ ดังนั้ถือว่าได้สร้างอุโบสถ ถวายไว้ในพระศาสนาแล้ว ขออนุโมทนาทุกท่านครับที่ร่วมมือกันสร้าง ทั้งแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ ชาตินี้เราได้สร้างไว้แล้ว ให้ชนรุ่นหลังได้ใช้ต่อไป สาธุอนุโมทนามิ
เวปไซด์วัดนาป่าพง http://www.watnapp.com/